คำถามทั่วไป เกี่ยวกับ GPS ติดตามรถ
  • A-GPS คืออะไร สามารถช่วยในการระบุตำแหน่ง ของตัวรถไหม?
    ระบบ A-GPS คือการระบุตำแหน่ง โดยคำนวณจากเสารับสัญญาณมือถือ การระบุตำแหน่งโดยใช้ A-GPS จะมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ข้อดีคือ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบตำแหน่งของตัวรถได้ ถึงแม้จะไม่ได้รับสัญญาณจากดาวเทียมGPS แต่ข้อเสียคือ ตำแหน่งที่ได้รับนั้น จะมีลักษณะเป็นพื้นที่รัศมี ซึ่งอาจกินพื้นที่วงกว้างเป็นกิโลเมตร ตัวอย่างเช่น ตัวเครื่อง GPS Tracker รับสัญญาณจากเสาส่งGSM ซึ่งตั้งอยู่บนตึก True ที่รัชดา ผู้ใช้ก็จะทราบเพียงแค่ว่ารถจอดอยู่ในพื้นที่ ที่เสานี้ส่งสัญญาณถึงแต่จะไม่ทราบระยะห่างระหว่างตัวเสากับตัวรถ ซึ่งอาจกินพื้นที่แคบ หรือกว้างเป็นตารางกิโลเมตร ดังนั้น ระบบ A-GPS โดยทั่วไป จะถูกเพียงนำมาเสริม เมื่อตัวเครื่อง GPS Tracker ไม่ได้รับสัญญาณ GPS จากดาวเทียมเท่านั้น จะไม่ได้นำมาใช้งานเวลาปกติ เพราะไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้นั่นเอง ดังนั้นหากมีบริษัทใด อ้างว่าตัวเครื่องสามารถระบุตำแหน่งของตัวรถได้ ผ่านระบบ A-GPS นั้นย่อมไม่เป็นความจริง เพราะระบบนี้จะทราบเพียงแค่ว่ารถอยู่ในพื้นที่ของเสาส่งสัญญาณต้นไหน แต่จะไม่ทราบระยะห่างระหว่างตัวรถกับเสา ดังนั้น ต่อให้ขณะนั้นตัวเครื่องรับสัญญาณ GSM ได้จากเสา 3-4ต้น ก็ไม่สามารถนำมาคำนวณ หาพิกัดตำแหน่งที่แน่นอนได้อยู่ดี
  • GPS ติดตามรถ ใช้ในงานอะไร และบอกอะไรได้บ้าง?
    ประโยชน์หลักของ GPS ติดตามรถคือคอยควบคุมพฤติกรรมคนขับรถ ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการใช้งานของรถได้ในหลายๆรูปแบบ สามารถตรวจสอบได้ทั้ง ตำแหน่งปัจจุบันของตัวรถ เส้นทางการวิ่ง ความเร็วที่ใช้ สถานะเครื่องยนต์ ระดับนำมัน ฯลฯ อีกมาก ขึ้นอยู่กับความต้องการข้อผู้ใช้งาน และประโยชน์รองอาจนำมาใช้กันขโมย หรือติดตามคนขับรถได้
  • การซื้อ GPS ติดตามรถของบริษัทไหน ควรพิจารณาถึงอะไรบ้าง?
    ควรพิจารณาจะมีอยู่ 2 ส่วนหลักๆคือ 1.ตัวเครื่องติดตามรถ (GPS Tracker) และ 2.โปรแกรมที่นำมาให้ใช้งาน สำหรับตัวเครื่อง Tracker นั้น ควรคำนึงถึงคุณภาพของตัวสินค้า เมื่อเทียบกับราคา และการรับประกันก็เป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ เช่นบางบริษัทโฆษณาว่าตัวเครื่องคุณภาพสูงทำงานได้ไม่ต่ำว่า 5ปี แต่กลับรับประกันตัวเครื่องแค่ 1ปี หรือบางแห่งมีการคิดค่าต่อประกันเพิ่มในปีถัดไป และประกันเฉพาะตัวเครื่อง ไม่รวมค่าช่าง+ค่าเดินทาง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ควรถามให้ละเอียด เพราะ GPS Tracker ส่วนมากมักจะนำมาใช้งานระยะยาว ส่วนตัวโปรแกรม Tracking Systems นั้นจุดหลักๆที่ต้องดูคือ Serverควรตั้งในเมืองไทย เพื่อความรวดเร็วในการเข้าถึงและใช้งาน ควรเขียนโปรแกรมขึ้นมาเอง และมีโปรแกรมเมอร์คอยพัฒนา อยู่ตลอดเวลา, ควรมีแผนที่ลิขสิทธิ์เป็นของตัวเอง และสุดท้ายคือ เรื่องของ Function การใช้งานต้องตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ เรื่องแบบนี้ผู้ใช้ส่วนมากมักไม่ทราบก่อนซื้อ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะบางบริษัท นำโปรแกรมสำเร็จรูป หรือที่เขียนขึ้นมาแบบง่ายๆ มาให้ใช้ ซึ่งมักทำงานช้า ไม่ตรงความต้องการของผู้ใช้ และไม่สามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยนอะไรเองได้หากเกิดปัญหาขึ้น
  • มีประกันภัยเมื่อรถสูญหายไหม?
    การประกันรถจะมีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 100,000บาท ต่อเบี้ยประกัน 1,000บาท ดังนั้นโดยทั่วไปแล้ว ผู้ขายที่มีประกันตัวรถให้ ย่อมต้องบวกค่าใช้จ่ายตรงนี้ เข้าไปกับราคาขาย ซึ่งจริงๆแล้วเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะรถยนต์ส่วนมาก จะมีการทำประกันชั้น 1 หรือ 3+ ที่มีการประกันรถหายไว้อยู่แล้ว ทางเราจึงไม่ส่วนของประกันภัยให้
  • หากติดตั้งแล้วต้องการย้ายคันได้ไหม มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
    มีค่าแรงช่างเป็นค่าถอดเครื่อง รวมติดตั้งใหม่ 1,000บาท และค่าเดินทาง 500บาท ทั่วประเทศ
  • หากรถอยู่ชั้นใต้ดินในตึก สามารถบอกตำแหน่งได้ไหม?
    สัญญาณ GPS ไม่สามารถผ่านทะลุคอนกรีตได้ ดังนั้นหากรถเข้าไปในตัวตึก Programจะแจ้งตำแหน่งสุดท้ายที่รับตำแหน่งตัวรถได้ คือทางเข้าตึก แต่ทางผู้ใช้ยังสามารถตรวจสอบตำแหน่งแบบคร่าวๆ ได้ผ่านระบ A-GPS ที่ใช้การระบุตำแหน่งจากเสาส่งสัญญาณ GSM แต่ความแม่นยำจะสู้ตำแหน่งที่ได้รับจากดาวเทียม GPS ไม่ได้
  • อยู่ต่างจังหวัดจะติดตั้งอย่างไร มีค่าใช้จ่ายไหม?
    ทาง GPSiam บริการติดตั้งถึงสถานที่ ทั่วประเทศ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
คำถามเกี่ยวกับตัวเครื่องติดตามรถ
  • GPS Tracker มีกี่แบบ และทำงานอย่างไร?
    การทำงานของ GPS Tracker จะมี 2 แบบกว้างๆคือ ทำงานแบบ Offline กับ Online ตัวเครื่องที่ทำงานแบบ Offline เมื่อตั้งไปแล้ว ทางเจ้าของจะตรวจสอบเส้นทางการวิ่งได้ก็ต่อเมื่อนำตัวเครื่องต่อกับ Computer เพื่อทำการดึงข้อมูลที่เก็บในตัวเครื่องออกมา ส่วน GPS Tracker ที่ทำงานแบบ Online จะแยกย่อยออกเป็น 2 แบบคือ เครื่องที่แจ้งตำแหน่งผ่านระบบ SMS ซึ่งจะเรียกว่า กึ่งOffline เพราะผู้ใช้จะทราบตำแหน่งของตัวเครื่องในปัจจุบันก็ต่อเมื่อมีการสั่งให้ตัวเครื่องส่งตำแหน่งของตัวรถผ่านระบบ SMS เข้ามาที่มือถือของผู้ใช้ ซึ่ง GPS Tracker ชนิดนี้ มักจะถูกใช้เพื่อติดตามตัวบุคคล สิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยงมากกว่า สำหรับ GPS Tracker แบบ Online อีกชนิดจะทำงานแบบ Online-Realtime ซึ่งตัวเครื่องจะคอยส่งตำแหน่งของตัวรถ และข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้ที่ Server ตลอดเวลา 24ชม. ซึ่งผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลได้ปัจจุบันของตัวรถได้ตลอดเวลา สำหรับ GPS Tracker ที่ทำงานแบบ Realtime Online จะต้องทำงานควบคู่ไปกับโปรแกรม GPS Tracking ที่ใช้สำหรับเรียกดูข้อมูลต่างๆ และสำหรับระบบติดตามรถ จาก GPSiam จะเป็นแบบ Realtime-Online ด้วยเช่นกัน
  • GPS Tracker รุ่น ID5 ที่รองรับคลื่น 3G 2100Mhz ดีกว่าแบบธรรมดาอย่างไร?
    เครื่อง GPS Tracker รุ่น ID5 ที่ทาง จีพีเอสไอแอม จำหน่ายอยู่ ได้ออก Version ใหม่ที่รองรับคลื่นความถี่ 3G 2100Mhz ซึ่งจะมีข้อดีที่ สามารถทำงาน และส่งข้อมูลของตัวรถได้อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมพื้นที่การทำงานที่มากกว่า เพราะผู้ให้บริการมือถือในปัจจุบัน ได้หยุดการวางเสาสัญญาณของคลื่นความถี่เก่า และหันมาพัฒนาขยายเสาส่งสัญญาณ สำหรับความถี่ 2100Mhz กันหมดแล้ว ดังนั้นเครื่องที่รองรับระบบ3G ซึ่งสามารถรับส่งสัญญาณ ได้ทั้งบนความถี่เก่า และความถี่ใหม่ 2100Mhz ย่อมได้เปรียบกว่าเครื่อง2Gธรรมดา ***โปรดระวัง ผู้ให้บริการบางราย ซึ่งอ้างว่าเครื่องของตนเองนั้นรองรับ 3G แต่เป็นเพียงการนำ Simcard 3G มาใส่ในเครื่อง 2G ธรรมดา ซึ่งจะเป็นการ Roaming สัญญาณไประบบเก่า ตัวเครื่องไม่ได้ไปจับสัญญาณ 3G แต่อย่างใด
  • GPSiam รับประกันตัวเครื่องตลอดการใช้งาน สามารถทำได้อย่างไร ขณะที่บริษัทอื่นให้แค่ 1-3ปี?
    GSP Tracker นั้นต้องมีคุณภาพและความเสถียรในการทำงานต่อเนื่องสูง ทาง GPSiam จึงเลือกใช้เฉพาะ Tracker ที่มีคุณภาพสูง จึงกล้ารับประกันตัวเครื่องตลอดอายุการใช้งาน หากตัวเครื่องมีปัญหา ทางเราเปลี่ยนใหม่ให้ฟรี ไม่มีค่าเดินทางหรือค่าแรง เป็นรายแรก และรายเดียวในประเทศไทย ที่กล้ารับประกันขนาดนี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ
  • ตัวเครื่องที่ Set Sleep mode ไว้ กับที่ทำงาน 24ชั่วโมง ดีเสียต่างกันอย่างไร?
    เครื่อง Tracker ที่ทำการ set sleep mode ไว้จะมีข้อดีตรงที่ ช่วงเวลาที่ตัวเครื่องหยุดทำงานจะช่วยประหยัดไฟ และลดค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูล แต่จะมีข้อเสียตรงที่ ช่วงเวลาที่ตัวเครื่องหยุดส่งข้อมูลไป ผู้ใช้จะไม่สามารถทราบได้ว่า ตัวเครื่องหยุดส่งข้อมูลเพราะเข้า sleep mode หรือว่าตัวเครื่องถูกถอดและหยุดทำงานไปแล้ว ซึ่งจะต่างกับตัวเครื่องที่ทำงานส่งข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ทางผู้ใช้จะทราบได้ทันที หากรถคันใดมีปัญหา มีผู้ให้บริการ GPS ติดตามรถ หลายราย ที่มัก set sleep mode ไว้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยที่ไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบก่อนซื้อ ซึ่งจะเป็นผลเสียกับผู้ใช้ในภายหลัง สำหรับ GPS Tracker ที่มาจาก GPSiam ทุกตัวจะทำงานตลอด 24ชั่วโมง ไม่มีการ set sleep mode แต่อย่างใด
  • ตัวเครื่องส่งข้อมูลถี่เท่าไรถึงจะดี 10, 20, 30, 60, 180วินาที?
    ความถี่ที่เหมาะสมในการส่งข้อมูลของตัวเครื่อง อยู่ที่ลักษณะการใช้งาน หากข้อมูลถูกส่งช้ามากเกินไป การดูเส้นทางการวิ่งย้อนหลังของตัวรถ จะค่อนข้างกระโดดและดูไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าส่งข้อมูลถี่มากเกินไป ปริมาณข้อมูลที่ได้รับมานั้น จะมากเกินความจำเป็น และต้องใช้เวลามากกว่าปกติหากนำมาตรวจสอบย้อนหลัง จากประสบการณ์ของเรานั้น สำหรับการใช้งานทั่วไป ให้ตัวเครื่อง tracker ส่งข้อมูลทุกๆ 1 นาทีนั้น ถือว่าค่อนข้างเหมาะสมกับการใช้งาน หากถี่กว่านี้ก็จะได้รับข้อมูลที่มากเกินจำเป็น แต่ถ้าห่างกว่านี้จะดูเส้นทางย้อนหลังลำบาก
  • ตัวเครื่องใช้ไฟจากไหน หากไม่ได้รับไฟ ยังทำงานได้ไหม?
    ตัวเครื่อง GPS Tracker จะใช้ไฟโดยต่อกับไฟแบตเตอรี่ของตัวรถ ซึ่งจะกินไฟค่อนข้างน้อย ไม่มีผลกระทบใดๆกับการใช้งานตัวรถ และไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับระบบไฟเดิมของตัวรถ ไม่หมดประกัน และหากตัวเครื่องไม่ได้รับไฟจากแบตเตอรี่รถ ก็ยังสามารถทำงานได้ต่อ 4-6ชั่วโมง จากแบตเตอรี่สำรองในตัวเครื่อง
  • ติดตั้งเครื่อง GPS ติดตามรถแล้ว จะมีปัญหากับระบบไฟของตัวรถไหม และจะหมดประกันไหม?
    การติดตั้งตัวเครื่อง GPS ติดตามรถนั้น ทางเราจะเข้าไปต่อสายไฟเพียงสามสายเท่านั้น คือสายไฟบวก กราว และสวิสต์กุญแจ ซึ่งไม่ได้ไปยุ่งกับระบบไฟส่วนอื่น หรือไปยุ่งกับกล่อง ECU ดังนั้งจึงมั่นใจได้ว่าระบบไฟของตัวรถจะไม่มีปัญหาที่เกิดจากการติดตั้งตัวเครื่อง และหากเป็นรถใหม่ ประกันของรถก็จะยังคงอยู่ เพราะการติดตั้งตัวเครื่อง GPS ติดตามรถ ก็ไม่ต่างจากการติดสัญญาณกันขโมย หรือเครื่องเสียงอื่นๆ ซึ่งไม่ได้ไปยุ่งเกียวกับเครื่องยนต์ หรือการทำงานของตัวรถแต่อย่างใด
  • ติดตั้งแล้วคนขับจะรู้ไหม?
    ตัวเครื่องติดตามจะมีขนาดเล็ก กว้างxยาว ประมาณ มือถือ I-Phone ดังนั้นทางช่างสามารถนำไปติดตั้งไว้ตรงส่วนไหนของตัวรถก็ได้ และการติดตั้ง GPS Tracker โดยปกติจะเก็บซ่อนสายทุกอย่างไว้ภายใน หากทางเจ้าของไม่แจ้งให้คนขับทราบ ก็จะไม่มีทางรู้ว่ารถมีการติด GPS Tracker อยู่
  • ติดตั้งได้กับรถประเภทไหนบ้าง ใช้เวลานานเท่าไร?
    สามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภท ทั้งรถยนต์ หกล้อ สิบล้อ รถพ่วง ดัมพ์ รถขุด รถไถ มอเตอร์ไซด์ เรือ ฯลฯ ใช้เวลาติดตั้งประมาณ 1 ชั่วโมง
  • รถไปอยู่ในจุดที่ไม่มีสัญญาณGSM จะทำอย่างไร?
    หากรถไปอยู่ในที่ไม่มีสัญญาณGSM ตัวเครื่องจะทำการเก็บข้อมูลการเดินทางไว้ในตัวกล่อง และจะทำการส่งข้อมูลทันทีเมื่อรถไปอยู่ในจะมีส่งสัญญาณได้
  • ระยะทางการวิ่งที่ตัวเครื่องวัดได้ มีความแม่นยำแค่ไหน?
    ระยะทางการวิ่งที่วัดจากตัวเครื่อง มีความแม่นยำสูง โดยระยะทางจะวัดจากเส้นทางจริงที่ตัวรถวิ่งบนแผนที่ ซึ่งผู้ใช้สามารถนำระยะทางไปอ้างอิง เพื่อคิดค่าใช้จ่ายได้
  • หลังการติดตั้งแล้ว หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ตัวเครื่องจะกินแบตเตอรี่จดหมดไหม?
    ตัวเครื่องจะถูกออกแบบมาให้กินไฟค่อนข้างน้อย หากเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ใช้งานได้ปกติ สามารถจ่ายไฟให้ตัวเครื่อง GPS Tracker ได้เป็นเดือนกว่าจะหมด แต่หากมีรถคันไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ทางผู้ใช้สามารถแจ้งให้ทางเราตั้งค่า sleep mode ได้ เพื่อลดการใช้ไฟจากแบตเตอรี่
  • หากคนขับไปยุ่งกับตัวเครื่อง จะเกิดอะไรขึ้น?
    ตัวเครื่อง GPS Tracker จะมีระบบแจ้งเตือน ถึงความผิดปกติต่างๆ ผ่านไปยังตัว Program อยู่แล้ว เช่นหากมีการตัดสายไฟเลี้ยง หรือเสารับสัญญาณต่างๆ ก็จะมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ให้ทราบทันที
  • หากฝนตก สามารถบอกตำแหน่งได้ไหม?
    การระบุตำแหน่งของตัวรถ จะนำข้อมูลจากดาวเทียมหลายดวงมาคำนวณ ดังนั้นหากฝนตกก็ยังคงระบุตำแหน่งตัวรถได้ ไม่เหมือนกับจานดาวเทียม ที่รับสัญญาณจากดาวเทียมดวงเดียว ซึ่งหากมีเมฆฝนมาบังก็จะรับสัญญาณไม่ได้
คำถามเกี่ยวกับโปรแกรม
  • การสั่งดับเครื่องยนต์ขณะรถวิ่ง จะเป็นอันตรายไหม?
    หากตัวรถมีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเครื่องยนต์ ระบบของเราทำการดับเครื่องยนต์ให้เมื่อรถหยุดนิ่ง จะไม่ดับเครื่องเมื่อรถวิ่งอยู่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเมื่อรถดับแล้วจะStartไม่ติด จนกว่าทางผู้ใช้จะทำการยกเลิกคำสั่งดับเครื่องยนต์
  • การเปิดดูผ่านมือถือ ทำไมควรจะมี Program ทำงานเฉพาะ?
    เนื่องจากมือถือมีขนาดหน้จอ ที่เล็กว่า และทำงานช้ากว่าเครื่องคอมพิวเตอร์มาก จึงต้องมีโปรแกรมเฉพาะสำหรับเปิดบนมือถือ เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน สำหรับ GPSiam จะมี application เฉพาะสำหรับเปิดบนมือถือ สามารถทำงานได้ทุกเครื่อง ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
  • ระบบการแจ้งเตือนผ่านหน้าจอโปรแกรม Email หรือ SMS ทำงานอย่างไร?
    การแจ้งเตือนเหตุผิดปกติต่างๆ เช่น รถวิ่งเกินความเร็ว, วิ่งออกนอกพื้นที่กำหนด, ไม่ได้รับไฟจากแบตเตอรี่ หรือสายสัญญาณถูกตัด ฯลฯ ทางผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้ระบบแจ้งเตือนผ่านหน้าจอตัวโปรแกรม ส่งเป็น Email หรือข้อความ SMS เข้ามือถือ (สำหรับการส่งข้อความ SMS แจ้งเตือนจะมีค่าใช้จ่ายข้อความละ 2 บาท)
  • ระบบติดตามรถ ที่มีแผนที่ของตัวเอง ดีกว่าใช้ของ Google อย่างเดียวอย่างไร?
    โดยปกติแล้ว Google จะให้ใช้งานแผนที่ google maps แบบบุคคลเท่านั้น จะไม่ให้นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ (commercial) แต่ปัจจุบันที่สามารถใช้กันได้เพราะทาง Google ยังไม่ตรวจจับจริงจังเท่านั้น ดังนั้นระบบติดตามรถที่ดี ควรต้องมีแผนที่เป็นของตัวเอง เพื่อไว้ใช้งานกรณี Google ตัดการใช้งานด้วย และแผนที่ลิขสิทธิ์จะมีข้อดีตรงที่ มีความละเอียดกว่าของ Google โดยเฉพาะพื้นที่นอกตัวเมือง เส้นทางจะละเอียดกว่ามาก
  • สามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้นานเท่าไร?
    ทาง GPSiam มีการเก็บข้อมูลย้อนหลังให้ 6 เดือน และผู้ใช้สามารถ save ข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ Excel หรือ PDF ได้
  • โปรแกรม GPS Tracking ที่ทำงานแบบ Web Base กับ PC Base คืออะไร ต่างกันอย่างไร?
    โปรแกรม tracking systems จะแบ่งเป็น 2 ชนิดหลักๆคือ ที่ทำงานแบบ Web Base กับ PC Base แบบ PC Base ผู้ใช้จะต้องนำโปรแกรมมาลงในเครื่อง PC หรือ Notebook เพื่อทำการเปิดดูข้อมูล หากต้องการเปิดดูจาก computer เครื่องอื่นที่ไม่ได้ลงโปรแกรมไว้จะไม่สามารถทำได้ หรือถ้าเปิดดูได้ ก็อาจดูได้เพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป และส่วนมากจะไม่สามารถเปิดดูจากมือถือได้ และบางโปรแกรมผู้ใช้อาจต้องซื้อ computer ต่างหากเพื่อมาใช้เป็นเครื่องแม่คอยรับส่งข้อมูล ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย ในการดูแลและบำรุงรักษาอีก ดังนั้น tracking systems แบบ PC Base ถือเป็นระบบแบบเก่าที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว สำหรับ tracking systems แบบ Web Base จะทำงานผ่าน internet คือ ไม่ว่าเครื่อง computer, notebook หรือ มือถือ เครื่องไหนที่ต่อ internet อยู่ ก็สามารถเปิดตัวโปรแกรมผ่าน Web Browser เช่น IE, Firefox หรือ Chrome ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมที่ตัวเครื่อง และไม่จำเป็นต้องมีเครื่องแม่ เพราะทางผู้ให้บริการจะเป็นคนรับผิดชอบดูแลในส่วนของตัว Server ให้ ซึ่ง Tracker Systems รุ่นใหม่ๆ จะทำงานในแบบ Web Base กันหมดแล้ว รวมถึง Tracking Systems จาก GPSiam ด้วยเช่นกัน
  • โปรแกรมจัดการขนส่ง (TMS) เหมาะกับใครบ้าง?
    ระบบจัดการขนส่ง (TMS) จะออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ มีที่รถสำหรับขนส่งสินค้า โดยระบบนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดตารางเวลาการเดินรถ เส้นทางการเดินรถ และยังรวมเอาระบบแจ้งเตือนมาใช้ เพื่อแจ้งผู้รับปลายทางเมื่อสินค้ากำลังเดินทาง หรือแจ้งผู้ส่งเมื่อสินค้าถึงปลายทางแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถ print job ในแต่ละวันออกมาให้คนขับรถ และยังมีระบบรายงาน เมื่อจบการทำงานในแต่ละวัน เพื่อสรุประยะทางการวิ่ง และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และเมื่อผนวดรวมระบบ TMS และระบบติดตามรถ Tracking Systems เข้าด้วยกัน จึงกลายมาเป็นระบบ Fleet Systems จาก GPSiam ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการขนส่ง ให้ผู้ประกอบการอย่างสูงสุด
  • โปรแกรมติดตามรถที่เขียนขึ้นเอง ดีกว่าที่มาจากต่างประเทศอย่างไร?
    โปรแกรม Tracking Systems ที่เขียนขึ้นเอง จะมีข้อดีตรงที่ตัวโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยน และเพิ่ม Functions การใช้งานต่างๆ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้ แต่ผู้จำหน่าย tracker ในต่างประเทศบางราย มักจะแถมโปรแกรมติดตามมาให้ และให้มาทำการเปลี่ยนภาษาเพื่อนำมาใช้ โปรแกรมประเภทนี้จะเป็นแบบสำเร็จรูป ใช้งานไม่สะดวก ช้า และไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้เลย และถ้ามีปัญหาการใช้งาน ต้องรอเมืองนอกทำการแก้ไขให้เท่านั้น
  • โปรแกรมแจ้งบำรุงรักษาชิ้นส่วนรถ ทำงานอย่างไร?
    ตัวโปรแกรมจะทำหน้าที่แจ้งเตือนผู้ใช้ ว่ามีชิ้นส่วนอะไหล่ตัวไหน ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน โดยสามารถคำนวณได้ทั้งจาก ระยะเวลาที่ใช้งาน ระยะทางที่วิ่ง หรือระยะเวลาที่ได้ติดตั้ง เช่น น้ำมันเครื่อง ยางล้อ ผ้าเบรก ประกันภัย ทะเบียนรถ ฯลฯ โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้เตือนผ่านหน้าจอเมื่อทำการLogin ผ่านEmail หรือ SMS ได้ ตัวโปรแกรมจะเขียนไว้ให้ใช้ฟรี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการขนส่ง หลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดจากตัวรถ